ข่าวสารและกิจกรรม

เตรียมพบกับสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า PHOENIXS STATION เร็ว ๆ นี้

ภาพร่างต้นแบบ สถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า Phoenixs Station

อีกหนึ่ง Project ในอนาคตของ Phoenixs

Project ในอนาตดของ Phoenix Station สถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า

คลิป present Project ในอนาคตของสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า Phoenixs พื้นที่จังหวัด นครราชสีมา

หนึ่งใน Project ของสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า Phoenixs Station

บริษัทได้มีการกำหนดรูปแบบสถานีบริการไว้ เพื่อให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่และงบประมาณของผู้ร่วมทุน.

SIZE S

SIZE M

SIZE XL แบบที่ 1

SIZE XL แบบที่ 2

ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ดูสถานที่ก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า PHOENIX STATION

ชาร์จไฟรถแบบ AC-DC แบบไหนตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ EV มากที่สุด

สิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าหรือปลั๊กอินไฮบริดต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การชาร์จไฟฟ้า ผู้ขับขี่จะต้องทำความรู้จักกับกระแสไฟฟ้ากันก่อน อันเป็นข้อมูลพื้นฐานการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลต่อระยะเวลาประสิทธิภาพการชาร์จไฟฟ้าเข้าสู่ตัวรถ และสามารถวางแผนบริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม
กระแสไฟฟ้าที่หลายๆ ท่านรู้จักนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ กระแสไฟฟ้าตรง (DC) และกระแสไฟฟ้าแบบสลับ (AC) ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของสาธรณูปโภคมากที่สุดหรือเรียกง่ายๆ ไฟบ้านจะเป็นกระแสไฟฟ้าแบบสลับที่หลายๆ ท่านคงจะรู้จักกัน
โดยการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่าน AC นั้นจะเรียกว่า Normal Charge ซึ่งจะเป็นการนำไฟบ้านวิ่งผ่าน On Board Charger ที่ยู่ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อแปลงไฟฟ้าจากกระแสสลับเป็นกระแสตรงเพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ ข้อดีก็คือสามารถชาร์จจากไฟบ้านได้โดยตรงเลย ใช้งานไม่ซับซ้อน แต่ข้อจำกัดจะอยู่ที่ขนาดของ On Board Charger ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

การคำนวณระยะเวลาในการชาร์จแบบ AC จะใช้สูตร “ความจุแบตเตอรี่ (กิโลวัตต์ชั่วโมง / kWh) ÷ ขนาด On Board Charger (กิโลวัตต์ / kW) = ระยะเวลาในการชาร์จ” เช่น ความจุแบตเตอรี่ 24 kWh แต่ขนาดออนบอร์ดแค่ 3 กิโลวัตต์ หากชาร์จไฟบ้านก็จะใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมง

สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่าน DC หรือกระแสตรงนั้น ส่วนมากจะมาจากการชาร์จผ่านเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าจาก AC เป็น DC เพื่อชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องผ่าน On Board Charger นั่นหมายความว่าจะสามารถชาร์จเข้าสู่ตัวรถได้อย่างรวดเร็ว แถมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า มีขนาดที่หลากหลายเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ

การคำนวณระยะเวลาในการชาร์จแบบ DC จะใช้สูตร “ความจุแบตเตอรี่ (กิโลวัตต์ชั่วโมง / kWh) ÷ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (กิโลวัตต์ / kW) = ระยะเวลาในการชาร์จ” เช่น ความจุแบตเตอรี่ 24 kWh แต่เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าสามารถชาร์จได้สูงสุด 50 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที

จากบทความข้างต้นนี้ หลายๆ ท่านคงจะคิดว่าการชาร์จแบบกระแสตรง หรือ DC ย่อมดีกว่าตรงที่มีความรวดเร็วในการชาร์จแบบกระแสสลับ หรือ AC แต่ในความจริงแล้ทุกแบบล้วยมีข้อดีของมัน และยังมีปัจจัยสนับสนุนร่วมด้วย อาทิ ระยะเวลาในชีวิตประจำวัน ซึ่งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า กินเวลานานกว่าการเติมน้ำมันรถทั่วๆ ไปตั้งแต่เป็นนาทีจนถึงเป็นชั่วโมง คงไม่มีใครยอมนั่นแช่นานเกิน 10 นาที เพื่อรอชาร์จไฟให้เต็ม แต่จะเสียบปลั๊กแล้วออกทำกิจกรรมนอกรถเสียมากกว่า

โดยการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC นั้นเหมาะสำหรับการชาร์จข้ามคืน หลังจากผู้ขับขี่กลับถึงบ้าน ก็สามารถเสียบปลั๊กชาร์จในช่วงค่ำ ถึงเช้าก็เต็มแล้ว หรือจะบวกเงินเพื่อติดตั้ง Wallbox เพื่อย่นระยะเวลาในการชาร์จก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ค่าไฟในการชาร์จจะเฉลี่ยประมาณ 0.7-1 บาท/กิโลเมตร ซึ่งถือได้ว่าถูกพอสมควร
ส่วนเครื่องชาร์จแบบ DC นั้นจะมีมูลค่าที่สูง เหมาะสำหรับการบริการแก่นักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาทำกิจกรรมไม่นาน จึงมักจะพบเห็นได้ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือแม้แต่ลานจอดรถ ประกอบกับเครื่องชาร์จแบบ DC จะต้องมีการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ผู้ให้บริการชาร์จไฟรถยนต์จำเป็นต้องมีการเก็บเงินค่าชาร์จด้วย ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าการชาร์จแบบ AC

การชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่เหมาะสมสำหรับคุณมากที่สุดจะขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาการทำกิจกรรมของผู้ใช้รถ หากอยู่ในบ้านการชาร์จแบบกระแสสลับจะให้ความสบายใจมากกว่า ส่วนในกรณีที่ไปเที่ยว ช็อปปิ้ง หรือแม้แต่เดินทางไกล การชาร์จแบบกระแสตรงจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น รถยนต์ไฟฟ้าควรชาร์จไฟให้เต็มประจุ 1 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เก็บประจุให้เต็มที่ และเป็นการรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ในระยะยาว

Cr.MTHAI AUTO

ตอบข้อสงสัย ฝนตกน้ำท่วม รถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำ ไฟจะดูดไหม

เตรียมบอกลาฤดูร้อน แล้วเข้าสู่ฤดูฝนกันดีกว่า แต่อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ฝนตกหนักทีไร น้ำท่วมขังทุกที แล้วอย่างนี้ถ้าเราเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะโดนไฟดูดไหมนะ คำตอบคือไม่ดูดครับ ไม่ว่าคุณจะลุยน้ำลึก ถึงแม้ว่าตัวแบตเตอรี่ของรถยนต์จะจมไปอยู่ใต้ระดับน้ำ ยังไงก็ไม่โดนไฟฟ้าดูดแน่นอน

เนื่องจาก IP (International Protection) rating system หรือ มาตรฐานที่ใช้วัดความสามารถในการปกป้องสิ่งที่อยู่ภายในของอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ทั้งหลายได้กำหนดให้รถ EV ต้องได้มาตรฐาน IP65 ซึ่งตัวเลขหลักแรกและหลักที่สองจะแสดงความสามารถในการป้องกันของแข็งและของเหลวตามลำดับ แปลว่ามันจะป้องกันกระเเสน้ำที่มีความดันต่ำจากทุกทิศทางได้ ในขณะที่ IP ของอุปกรณ์อื่นๆของรถยนต์อีวี เช่น ส่วนแบตเตอรี่ ระบบเร่งเครื่องยนต์ และมอเตอร์จะมีมาตรฐาน IP อยู่ที่ IP66 แต่ในบางรุ่นบางค่าย เช่น BMW ก็สามารถกันได้น้ำได้ที่ระดับ 8 เลยทีเดียว ซึ่งจัดว่าเป็นระดับสูงสุด เทียบเท่ากับเรือดำน้ำเลย
ถึงอย่างไรก็ตาม PHOENIX STATION ก็ไม่แนะนำให้เอารถยนต์ลุยน้ำถ้าไม่จำเป็นนะครับ เพราะเขาไม่ได้ออกแบบให้แล่นในน้ำเนอะ อย่างไรก็อาจจะไม่ดีกับรถยนต์ของเราเท่าไหร่ แต่ถ้าใครกลัวเรื่องไฟดูด ตอนนี้สบายใจได้แล้วนะคร้าบ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://thedriven.io/…/is-a-battery-electric-vehicle-safe-…/

ประชุมสรุปความคืบหน้าสถานที่ก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า PHOENIX STATION พื้นที่เขาใหญ่จังหวัดนครราชสีมา

มีสาระดี ๆ มาฝาก คุณรู้หรือไม่

ร่วมบุญกับ PHOENIX STATION ในโครงการวิ่งไปได้บุญ campingrun ณ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

สีของน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน

บรรยากาศภายในงานวิ่งไปได้บุญ กับ PHOENIX STATION

ขณะจัดเตรียมงาน

บรรยากาศวันจัดงาน

กิจกรรมภายในซุ่มของ PHOENIX STATION

ตัวแทน PHOENIX STATION ร่วมมอบรางวัลและสิ่งของ

มินิคอนเสิร์ตภายในงาน

PHOENIX STATION ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการโชคชัยปาร์ค

โรงแรม เดอะ แกรนด์ โมร๊อค ใน เครือ Phoenix Station เป็นสถานที่ จัดงานประกวด Miss Model international

บริษัท ภาคภิญโญ จำกัด

1000/18 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้น 14
ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถ.สุขุมวิท
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

FOLLOW US

Copyright@2023 Phoenixs Station

CALL CENTER